ชื่อ “วีรภัทร” เป็นชื่อของภาคหนึ่งของพระศิวะ ที่อยู่ในรูปแบบของนักรบอสูรที่ดุดัน เรื่องมีอยู่ว่า
เมื่อครั้งที่พระศิวะแบ่งภาคมาบำเพ็ญเพียรในร่างของ “พระมุนีโยคี” ก็ได้พระแม่สตี เป็นพระชายา แต่ในร่างนี้ พระศิวะมีผมเผ้าหนวดเครายาวรุงรัง เอากะโหลกมาร้อยเป็นสังวาลสวมคอ คบหาเหล่าภูตผี นุ่งห่มด้วยผ้าบังสกุล นอนตามป่าช้า กลิ่นตัวเหม็นสาบ เป็นที่รังเกียจของพ่อตา คือ “พระทักษะบดี” เป็นอย่างมาก
พระทักษะได้พูดจาดูถูกเหยียดหยามลูกเขยในงานบูชาเทพที่จัดขึ้นต่อหน้าพระนางสตีและเทพอื่นๆ ที่อยู่ในงาน จนพระนางสตีโกรธและเสียใจ ตัดสินใจกระโดดเข้ากองไฟฆ่าตัวตายในที่สุด
พระศิวะในภาคพระมุนีเมื่อรู้ก็โกรธมาก ดึงปอยผมโยนลงพื้น เกิดเป็น “วีรภัทร” อวตารปางดุร้ายของพระองค์ เพื่อเข้าทำลายพิธีรวมทั้งพระทักษะให้สิ้นซาก
ซึ่งเหตุการณ์นี้เอง โยคีสมัยใหม่ได้นำเอาการปรากฏตัวของวีรภัทร ไปผนวกเป็นท่าโยคะจนตั้งชื่อว่า “วีรภัทราสนะ” นั่นก็คือ…

วีรภัทราสนะ เอกะ หรือท่านักรบที่ 1
เป็นท่าการมาถึงของวีรภัทร ทั้งสองมือถือดาบโผล่ขึ้นมาจากผืนดิน

วีรภัทราสนะ ดะเว หรือท่านักรบที่ 2
เป็นท่าทางเมื่อวีรภัทรได้เห็นเป้าหมายของเขาแล้วนั่นก็คือพ่อตาตัวร้าย และ

วีรภัทราสนะ ไตร หรือท่านักรบที่ 3
เป็นท่าการเคลื่อนที่อย่างว่องไวและแม่นยำ ดาบในมือพุ่งตรงเข้าไปฟันคอพระทักษะหลุดออกจากบ่า!
นี่เองเป็นที่มาของท่านักรบ และตำนานรักบทแรกของพระศิวะกับพระอุมา (ต่อมาพระนางสตีได้มาเกิดใหม่เป็นพระอุมา)
อ่าน “Love Story ของพระศิวะ… ที่มาของ Warrior Pose/ท่านักรบ ท่าโยคะอันทรงพลัง” ฉบับเต็มๆ ได้ที่ https://intrend.trueid.net/post/225073